ลำดับเหตุการณ์
ทวงคืน
ปตท กรณี
คืนท่อก๊าซ
อันที่จริงประเด็นเรื่องทวงคืน
ปตท ให้รัฐครบหรือไม่นั้น
เป็นประเด็นเดิมที่พูดถึงกันอยู่เนืองๆ แต่ช่วงหลังโดยเฉพาะหลังจาก คสช.
ได้ยึดอำนาจ ประเด็นเรื่องการทวงคืน ท่อก๊าซ ดูเหมือนจะถูกหยิบยกมาเล่น
ไม่ต่างจากเกมการเมืองอย่างไม่รู้จบ นั่นอาจเพราะคาดหวังให้ คสช.
ใช้อำนาจโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านศาล ซึ่งท้ายที่สุดแล้วศาลก็ตัดสินว่า ปตท.
คืนท่อก๊าซ ครบแล้วและจำหน่ายคดีท่อก๊าซออกจากสารบบไปแล้วตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558 แต่กระนั้นเหมือนว่า “คำตัดสินศาล”
จะไม่อาจหยุดความต้องการในการทวงท่อก๊าซ จากกลุ่มคนบางกลุ่มได้ กลายเป็นการดีเบตวาทะของกลุ่มคน
2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งบอกว่าคืนไม่ครบต้องคืนทุกท่อก๊าซปตท. อีกฝ่ายเชื่อถือคำสั่งศาล
ซึ่งอันที่จริงเรื่องนี้ไม่ได้มีความซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจ
เพียงแต่ด้วยการให้ข้อมูลแบบขาดๆ หายๆ หรือข้อมูลไม่ครบ
ส่งผลให้ผู้ที่คอยติดตามเกิดความสับสนและเข้าใจเรื่องราวผิดไปจากข้อเท็จจริง
“จุดเริ่มต้น ภายหลังจากที่ได้มีการแปรสภาพการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
ไปเป็นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2544
เพื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่อมา วันที่ 31 สิงหาคม 2549 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคกับพวกรวมห้าคน
ได้ดำเนินการยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ต่อศาลปกครองสูงสุด
ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนพระราชกฤษฎีกาในกระบวนการแปลงสภาพการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
เป็นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ขอให้ ปตท.
กลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจที่ชื่อว่าการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยเหมือนเดิมนั่นเอง
ซึ่งต่อมา ปตท. ก็ได้ร้องขอให้ตัวเองเข้ามาเป็นผู้ถูกฟ้องคดีอีกคนหนึ่ง
เพราะผลแห่งคดีที่เกิดขึ้น ปตท. ย่อมเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ
หาใช่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามคนไม่
คดีนี้ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาออกมาในวันที่
14 ธันวาคม 2550
สรุปได้ดังนี้
1. ให้ยกคำขอตามคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีที่ขอให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกาฯ ที่เกี่ยวกับการแปรรูป หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ให้ ปตท. ยังคงเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ต่อไป ไม่ต้องถูกเพิกถอนกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจที่ชื่อว่า การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
2. ให้ผู้ถูกฟ้องคดีร่วมกันแบ่งแยกทรัพย์สินส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และสิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ รวมทั้งให้แยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิของบริษัทฯ
1. ให้ยกคำขอตามคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีที่ขอให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกาฯ ที่เกี่ยวกับการแปรรูป หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ให้ ปตท. ยังคงเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ต่อไป ไม่ต้องถูกเพิกถอนกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจที่ชื่อว่า การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
2. ให้ผู้ถูกฟ้องคดีร่วมกันแบ่งแยกทรัพย์สินส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน และสิทธิการใช้ที่ดินเพื่อวางระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ รวมทั้งให้แยกอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐออกจากอำนาจและสิทธิของบริษัทฯ
บทความฉบับเต็มสามารถอ่านต่อได้ที่
http://www.รู้จริงพลังงานไทย.com/tag/ทวงคืน-ปตท/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น