รีวิวครีมกันแดดคุมมัน สวยมั่นใจ แดดแรงแค่ไหนก็ไม่กลัว

รีวิวครีมกันแดดคุมมัน สวยมั่นใจ แดดแรงแค่ไหนก็ไม่กลัว

อากาศร้อน&แดดจ้า หลายๆคนเริ่มชินกับสภาพอากาศบ้านเรากันแล้ว แต่สำหรับใครที่ประสบปัญหาผิวหน้าไม่พร้อม บวกกับสภาพอากาศที่ร้อนซะเหลือเกิน คงจะต้องหาครีมกันแดดคุมมันพกติดตัวหรือซื้อติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้บ้าง ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า ปัญหาผิวมันเนี่ย ต้นเหตุมันเกิดจากอะไรกันแน่?

ขอบคุณภาพจาก : http://www.cleothailand.com/beauty/68115

“ปัญหาผิวมันสาเหตุหลักสองสาเหตุด้วยกัน อย่างแรกมาจากภายใน ได้แก่ กรรมพันธุ์ คือมีลักษณะรูขุมขนกว้างส่วนใหญ่คนเมืองร้อนแบบบ้านเราเป็นกันเยอะ เพราะรูขุมขนต้องกว้างเพื่อระบายความร้อนและเจ้าไขมันออกมาเพื่อรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิว ไม่ให้ผิวแห้งตึง และเมื่อผลิตออกมามากเกินไปก็ทำให้ผิวมัน อย่างที่สอง สาเหตุภายนอกส่วนมากจะมาจากอากาศร้อนที่ทำให้รูขุมขนระบายความร้อนออกมาทางผิวหนัง แต่มันไม่ได้มีแค่เหงื่อเท่านั้น ยังมีน้ำมันออกมาด้วยทำให้ใบหน้าของเราดูมันเยิ้ม” นั่นเอง ดังนั้นวิธีการดูแลผิวมันง่ายๆที่ทุกคนสามารถทำได้เพียง

·      เลือกเครื่องสำอาง|สารบำรุงผิวที่ไม่มีน้ำมัน ช่วยควบคุมความมัน อย่างการใช้ครีมกันแดดสูตรควบคุมความมัน ที่เป็นกันแดดคุมมันก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สาวไทยอย่างเราๆขาดไม่ได้เลย

อีกหนึ่งตัวช่วยที่ใช้ดีอยากบอกต่อกับ กันแดดคุมมัน นีเวีย ซัน ออยล์ คอนโทรล เซรั่ม SPF50+ PA+++ หมดกังวลหน้ามันเยิ้ม ด้วยการปกป้องและฟื้นบำรุงผิวที่ถูกทำร้านจากแสงแดด และยังช่วยใหผิวกระจ่างใส ลดความมันในรูขุมขน อีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดสิว สวยมั่นใจ แดดแรงแค่ไหนก็ไม่กลัวอีกต่อไป

นอกจากนี้สำหรับสาวๆที่หน้ามันควรลดเลิกพฤติกรรมซับมันจนเกินพอดี เพราะผิวจำเป็นต้องสร้างน้ำมันออกมาเพื่อให้ผิวคงความชุ่มชื้น จึงสร้างน้ำมันออกมาจำนวนมาก แต่พอเรายิ่งซับผิวให้แห้งผิวก็จะผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น จึงแนะนำให้ใช้ทิชชู่ซับความมันก็เพียงพอแล้ว 

แนะนำครีมกันแดดทาหน้า สวยเป๊ะแถมเป็น Makeup Base ในตัว ต้องไปตำ!!

สาวๆหลายๆคนเลิกใช้ครีมกันแดดทาหน้าด้วยเหตุผลที่พบเจอนั่นคือ เหนียวเหนอะหนะ เกลี่ยยาก ทาไปเดี๋ยวเดียวหน้าก็มันเยิ้ม ไหนจะเนื้อครีมที่แสนจะข้นหนืด ไม่รู้ว่าทาไปจะอุดตันรูขุมขนน้อยๆของเรารึเปล่า แต่ว่ากันแดดที่ดีไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกตัวนะ วันนี้เลยจะมาแนะนำครีมกันแดดทาหน้า สวยเป๊ะแถมเป็น Makeup Base ไปในตัวมาฝากกัน ไปดูกันเลยดีกว่า

เครดิตภาพจาก : http://www.cosmenet.in.th

นี่เลย NIVEA Sun Protect & White Oil Control Serum SPF50+ PA+++ เป็นครีมกันแดดหน้า สำหรับทาบริเวณผิวหน้า ด้วยเนื้อเซรั่มที่ปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดและUVA1 UVA2 UVB ประสิทธิภาพสูงสุด จุดเด่นของนางคือเกลี่ยง่าย ซึมเร็ว เนื้อบางเบา ไม่อุดตันรูขุมขน ช่วยความคุมความมันได้ถึง 86% และยังช่วยบำรุงผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด สำหรับสาวๆที่ต้องแต่งหน้าทุกวันสามารถใช้เป็น Makeup Base ก่อนการแต่งหน้าได้เลย จากนั้นก็ลงรองพื้นแต่งหน้าตามปกติ ระหว่างวันหน้าก็ไม่เยิ้มมันให้ต้องซับหน้ากันบ่อยๆ

เห็นหลอดเล็กๆ เรียวๆ แบบนี้ขอบอกว่าใช้ได้นานเหมือนกันนะคะ ขนาด 30 ml. บีบนิดเดียวก็ทาได้ทั่วบริเวณผิวหน้า ที่สำคัญราคานี่คบกันได้ยาวๆเลย สำหรับใครที่กำลังมองหากันแดดหน้า กันแดดทาหน้า ต้องบอกเลยว่า เจ้า NIVEA Sun Protect & White Oil Control Serum SPF50+ PA+++ เอาอยู่จริงๆ สำหรับใครที่ยังสงสัยสามารถเข้าไปดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ http://www.cosmenet.in.th/community/? PAGE_NAME=read&FID=35&TID=22641

ไขข้อสงสัย ทำไม ปตท น้ำมันแพง

ไขข้อสงสัย ทำไม ปตท น้ำมันแพง

หลายๆ คงที่ยังตั้งข้อสงสัยว่าทำไมราคาน้ำมันเพื่อนบ้านถูกกว่าบ้านเราแล้วทำไมทำไม ปตท น้ำมันแพง แท้จริงแล้วมาเลเซียขายเชื้อเพลิงถูกกว่าเรา แต่ก็ไม่มีใครไปหาเหตุผลมาบอกได้ว่ามาเลเซียเขาทำอย่างไร วันนี้จะพาไปดูข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ของปิโตรนาสเกี่ยวกับข้อมูลราคาเชื้อเพลิงมาให้อ่านกัน

1. ปิโตรนาส เป็นของรัฐบาลมาเลเซีย กำไรมากกว่า ปตท อยู่อันดับสูงกว่าในเวทีโลก

2. ขายในประเทศถูก แต่รวยกว่าปตท เพราะปิโตรนาสได้ขุดก๊าซ/น้ำมันดิบขึ้นมา แล้วส่งออกไปแถบ ญี่ปุ่น เกาหลี และอื่นๆ จึงสามารถขายได้แพงกว่าตั้ง 3 - 4 เท่าของราคาก๊าซในประเทศไทย

3. กับคำกล่าวอ้างที่ว่า ประเทศไทยเราก็ส่งออกน้ำมันเหมือนกันน่าจะมีรายได้สูงลิบ แต่อย่าลืมว่าไทยเรานำเข้าน้ำมันดิบกว่า 80% มากลั่นในประเทศแล้วได้น้ำมันสำเร็จรูป ถ้าเหลือเกินความต้องการในประเทศจึงส่งออก ไทยจึงได้แค่ค่าการกลั่นและปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปที่ส่งออกนั้นจิ๊บจ้อยมาก แต่ที่มาเลเขาส่งออกนั้น ไม่ได้เป็นกำไรจากค่าการกลั่น มันเป็นกำไรจากธุรกิจสำรวจ ขุดเจาะ และผลิต ซึ่งรุ้ๆ กันว่า ธุรกิจนี้ High risk High Return

4. กำไรปตท ของไทยจึงเทียบปิโตรนาสไม่ติด เพราะไทยไม่ได้ทำเพื่อการส่งออกอย่างปิโตรนาส ไทยไม่สามารถส่งออกได้เพราะลำพังกำลังการผลิตก๊าซและน้ำมันดิบในประเทศตอนนี้ก็ไม่พอกับคน 63 ล้านคนในประเทศแล้ว ต้องนำเข้าก๊าซประมาณ 30% ของการใช้ก๊าซทั่วประเทศ และน้ำมันดิบกว่า 80% ของการใช้น้ำมันดิบทั่วประเทศ ในขณะที่มาเล มีคนน้อยกว่าตั้งเยอะ (ประมาณ 27 ล้านคน) กำลังการผลิตเขามีเกินพอ จึงส่งออกได้ เมื่อเทียบกับไทยแล้วสถานการณ์ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 5. ดังนั้นสิ่งที่มาเลทำอยู่ในเวลานี้คือขุดทรัพยากรในประเทศ แล้วส่งออกไปขายนอกประเทศ ส่วนไทยขุดเชื้อเพลิงจากใต้ประเทศเราเองส่งออกให้เพื่อนบ้านใช้เช่นเดียวกัน

6. เมื่อเทียบกับพม่า ลาว กัมพูชา ที่ด้อยพัฒนากว่าเรา ค่าครองชีพถูกกว่าเรา ราคาเชื้อเพลิงเขาเป็นยังไงกันบ้าง แท้จริงแล้วราคา LPG ที่ใช้หุงต้มในครัวเรือนของเพื่อนบ้านเรา แพงกว่าที่เราใช้ทั้งหมด ทั้งๆที่ค่าครองชีพเขาต่ำกว่าเรามาก แต่ครัวเรือนเขากลับต้องจ่ายแพงกว่า สรุปว่า ไทยเราขาย LPG ถูกที่สุด แต่ก็ยังมีคำสบประมาทเกี่ยวกับ ปตท น้ำมันแพง

7. มาเลขายน้ำมันถูกเพราะรัฐช่วยตรึงราคามาก (แต่ในไทยเองนั้น รัฐเก็บภาษีหนักหน่วง) โดยเอาเงินที่กำไรมหาศาล จากการส่งออกก๊าซ/น้ำมันดิบมาช่วยตรึงราคา หากถามว่าเมืองไทยจะเอาตัวอย่างจากเพื่อนบ้านบ้างไหม ขุดในประเทศแล้วส่งออกไปให้คนอื่นใช้ แล้วเอากำไรตรงนั้นมาเข้ากองทุนให้รัฐตรึงราคาให้ เราจะยอมรับกันได้หรือเปล่า และนี่ก็คือเหตุผลที่ประเทศเค้าราคาถูกกว่า

สำหรับแนวทางที่จะทำให้ราคาเชื้อเพลิงในประเทศเราถูกอย่างมาเลเซีย บทความฉบับเต็มสามารถอ่านต่อได้ที่ http://www.รู้จริงพลังงานไทย.com/tag/ปตท-น้ำมันแพง/

คดี ปตท เรื่อง คืนท่อก๊าซ

ท่อก๊าซ / ศาลปกครอง คดี ปตท คืนท่อก๊าซ

– สตง. ทวงคืนท่อก๊าซ ปตท.
– แปรรูปท่อก๊าซ จากของรัฐให้เป็นของเอกชน
– นโยบายแปรรูปท่อก๊าซกลายเป็นของเอกชนฟรีๆ ไม่ต้องเสียภาษี
– ท่อก๊าซ เป็นสาธารณสมบัติ การยักยอกท่อก๊าซ คือ การปล้นอธิปไตยทางเศรษฐศาสตร์
– สตง. สั่ง ปตท. คืนท่อก๊าซ แล้วลุงตู่เลิกอุ้ม ปตท. ปล้นชาติซะที
– ผู้ตรวจการจี้ รัฐไม่แยกท่อก๊าซก่อนแปรรูปขัดมติ ครม. แนะนายกฯ สั่งทบทวนแบ่งทรัพย์สิน
– แยกท่อก๊าซขาย … อนุมัติไปแล้ว การทบทวนก็แค่ให้ไปตรวจ
– ข้าราชการ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบทวงคืนท่อก๊าซ จาก ปตท. เป็นกรรมการได้รับเงินและโบนัสจากกำไรของกลุ่มบริษัท ปตท.
– 12 ปี ปตท. จ่ายค่าเช่าท่อก๊าซให้รัฐ 5,000 ล้านบาท ฟันรายได้จากการเก็บค่าผ่านท่อ 300,000 ล้านบาท กำไร 6,000% นี่คือสาเหตุที่ ปตท. ไม่ยอมคืนท่อก๊าซและต้องการขายท่อก๊าซให้เอกชน

เหล่านี้คือ “ข้อความ” หรือ “คำถาม” ที่บางกลุ่มใช้เพื่อเรียกความสนใจจากประชาชนทั่วไป โดยมักเป็นคำพูดที่มีการบิดเบือนอยู่ในตัว หรือบางครั้งก็ใช้ลักษณะการพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว เพื่อให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงใจในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลถามว่าประเทศชาติได้ประโยชน์มากน้อยเพียงใดกับเรื่องเหล่านี้

ในสังคมประชาธิปไตยการแสดงความคิดเห็นต่างกับรัฐเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ การปลุกระดมเพื่อให้เกิดการตื่นตัวหรือกดดันรัฐในเรื่องต่างๆ ก็สามารถทำได้ในระบอบนี้ หากแต่เรื่องที่นำมาหยิบยกเป็นประเด็นสังคมต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริง ไม่ใช่การบิดเบือนเพื่อให้เกิดการแตกแยกกัน โดยไม่สนใจถึงข้อมูลจริงที่วางอยู่ตรงหน้า ยกตัวอย่าง

กรณี สตง. คดี ปตท คืนท่อก๊าซในความเป็นจริง สตง. มีหน้าที่ตรวจสอบ ในขณะที่ศาลมีหน้าที่ตัดสิน ซึ่งประเด็นดังกล่าวศาลปกครองได้พิจารณาตัดสินไปแล้วว่า ปตท. คืนท่อก๊าซครบ การพยายามหยิบยกคำกล่าวของ สตง. มาพูดนั้นไม่ต่างจากการเอาคำให้การของตำรวจมาพูดในคดีที่ศาลตัดสินไปแล้วนั่นเอง

กรณี แปรรูปท่อก๊าซ จากของรัฐให้เป็นของเอกชน … ย้อนไปตั้งแต่แปรรูป ปตท. เมื่อปี 2544 เมื่อ ปตท. แปรรูป มีการขายหุ้นและนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งทรัพย์สินที่เป็นของรัฐหรือได้มาโดยอำนาจรัฐก็จะถูกส่งคืนให้รัฐ ในที่นี้กรณีท่อก๊าซ ซึ่งมีทั้งส่วนที่ใช้เงินทุนจากการแปรรูป เงินจาก ปตท. เอง เงินจากการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย รวมไปถึงอำนาจรัฐ ซึ่งหลังจากการแปรรูปท่อก๊าซส่วนใดที่ได้มาจากการใช้อำนาจรัฐหรือเงินของรัฐ ท่อก๊าซส่วนนั้นๆ ก็ถูกส่งคืนให้รัฐ และ ปตท. ได้ทำสัญญาเช่าจากรัฐ ส่วนท่อก๊าซส่วนได้ที่ได้มาจากเงิน ปตท. ก็ถือว่าท่อก๊าซนั้นๆ เป็นของ ปตท. ส่วนในกรณีที่มีการกล่าวถึงท่อก๊าซในทะเลนั้น การวางท่อไม่ใช่การสร้างอสังหาริมทรัพย์ คล้ายการวางสายเคเบิ้ลใต้ทะเล จึงไม่จัดว่าส่วนนี้ใช้อำนาจของรัฐ และท่อก๊าซเป็นของ ปตท.

ติดตามอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : http://www.รู้จริงพลังงานไทย.com/tag/ศาลปกครอง-คดีคืนท่อก๊าซ/

แคลเซียมคาร์บอเนตVSแคลเซียมแอล-ทรีโอเนต เลือกทานแบบไหนดี?

เมื่อพูดถึงอาหารเสริมแคลเซียมแล้วแทบจะไม่มีใครบอกว่าไม่รู้จัก โดยเฉพาะกลุ่มที่ดูแลสุขภาพ ย่อมทราบดีว่า แคลเซียมเป็นอีกหนึ่งแร่ธาตุที่สำคัญของร่างกายจำเป็นในการสร้างกระดูก รักษากระดูก ผม เล็บและฟันให้แข็งแรง อีกทั้งป้องกันภาวะกระดูกพรุน ฯลฯ ซึ่งหลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบชนิดของแคลเซียมที่ช่วยในการบำรุงกระดูกว่ามีแบบใดบ้าง แล้วแคลเซียมชนิดไหนดีต่อร่างกายมากที่สุด วันนี้เรามีสาระน่ารู้เกี่ยวกับแคลเซียมมาฝากกัน เจ้าแคลเซียมแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่

แคลเซียมอนินทรีย์ ได้แก่ แคลเซียมคาร์บอเนต แคลเซียมคลอไรด์

แคลเซียมอินทรีย์ ได้แก่ แคลเซียม ซิเตรต แคลเซียมฟอสเฟต แคลเซียมแลกเตต แคลเซียมคีเลต ไบโอแคลเซียม แคลเซียมแอล-ทรีโอเนต ซึ่งปริมาณแคลเซียมและการดูดซึมของแคลเซียมต่างรูปแบบก็จะต่างกัน โดยทั่วไปที่พบในอาหารเสริมจะเป็น แคลเซียมคาร์บอเนตกับแคลเซียมแอล-ทรีโอเนต 

แคลเซียมคาร์บอเนตVSแคลเซียมแอล-ทรีโอเนต ความแตกต่างที่ต้องเลือก

- แคลเซียมคาร์บอเนต ถูกนำมาใช้มากที่สุด มีราคาถูก คุณสมบัติไม่ละลายน้ำ แต่ละลายได้โดยอาศัยกรดในกระเพาะ มีความสามารถในการดูดซึมได้พอๆกับแคลเซียมจากน้ำนม เมื่อเราทานแคลเซียมคาร์บอเนต 1,000 มิลลิกรัม จะมีปริมาณแคลเซียม 40% คือ 400 มิลลิกรัม แต่จะดูดซึมได้น้อยเพียง 15% ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียม 60 มิลลิกรัม โดยปกติร่างกายต้องการแคลเซียมอยู่ที่ 800 – 1200 มิลลิกรัม/วัน จึงไม่เพียงพอต่อร่างกาย

- แคลเซียมแอล-ทรีโอเนต สกัดมาจากข้าวโพด แคลเซียมชนิดที่ละลายน้ำได้ดีมาก สามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้เกือบ 100% สามารถทานก่อนหรือหลังอาหารได้ การรับประทานแคลเซียมแอล-ทรีโอเนต 1,000 – 2,000 มิลลิกรัม ก็เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกาย ด้วยการดูดซึมได้ดีจึงทำให้ไม่ตกตะกอนค้างในไต(นิ่ว) ไม่ทำให้ท้องผูก พร้อมๆกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในกระดูกและกระดูกอ่อน สร้างน้ำไขข้อ ฯลฯ

เพราะแคลเซียมบำรุงกระดูก แต่ละชนิดมีการละลายและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายไม่เท่ากัน เราจึงควรศึกษาข้อมูลที่แน่นอนก่อนเลือกซื้อผลิตภัฑณ์เสริมอาหารนั้นๆมาทาน สำหรับใครที่กำลังมองหาแคลเซียม เสริมกระดูก ควรดูชนิดของแคลเซียมที่เป็นส่วนผสม เพื่อการดูดซึมที่ดีแก่ร่างกาย หรือสามารถปรึกษา สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับอาหารเสริมแคลเซียมที่ได้คุณภาพ จากผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมได้ที่  https://www.facebook.com/CAL-T-872106819604543/

หรือ Line@ : https://line.me/R/ti/p/%40cal-t