วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ทองเหลืองแผ่น โลหะต้นแบบงานช่างและงานอุตสาหกรรม



ทองเหลือง โลหะอีกหนึ่งประเภทที่มักพบในงานช่าง งานอลูมิเนียม การก่อสร้าง ก่อนจะนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทองเหลือง เป็นโลหะผสมระหว่างทองแดงและสังกะสี สังกะสีเป็นส่วนประกอบหลัก เมื่อปริมาณของสังกะสีเปลี่ยน 5 - 45 เปอร์เซ็นต์ จะได้ทองเหลืองที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในกระบวนการของอุตสาหกรรมการผลิตมีมาตรฐานการแยกทองเหลืองออกเป็นสองกลุ่ม คือ แบบรีดเป็นแท่ง หรือแบบแผ่น( ทองเหลืองแผ่น ) และอีกกลุ่มจะเป็นประเภทหล่อ ทั้งสองกลุ่มมีคุณภาพ การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ที่เรารู้จักและนิยมนำไปประกอบการใช้งาน ตัวอย่างเช่น  ทองเหลืองที่ผสมสังกะสีไม่เกิน 5% Gilding metal(ชื่อทางการค้า) ซึ่งใช้ทำเหรียญ ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ทองเหลืองผสมสังกะสี 12.5%  Jewerlry bronze เป็นประเภททองเหลืองที่ใช้ในการทำเครื่องประดับ นอกจากนี้ สังกะสียังเป็นตัวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติเชิงกลของทองเหลือง เพิ่มความเหนียว แรงยึด ความแข็งให้กับทองแดง ในการแปรปรูโลหะงานอลูมิเนียมได้ดีอีกด้วย
ซึ่งในปัจจุบันยังมีเครื่องทองเหลืองให้พบเห็นในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ขันทองเหลือง พานทองเหลือง แจกันทองเหลือง กระทะทองเหลือง และ เครื่องใช้ เครื่องตกแต่งทำด้วยทองเหลือง อีกมากมาย
สำหรับในประเทศไทยนั้นได้มีตัวแทนจัดจำหน่าย นำเข้า โลหะทองเหลืองคุณภาพดี นอกจากนี้ยังมีวัสดุอุปกรณ์เพื่องานอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท จากประเทศผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงทั้งด้านคุณภาพและมาตรฐานที่ได้รับความมั่นใจ ความน่าเชื่อถือจากผู้บริโภค  นอกจากนี้ยินดีเป็นที่ปรึกษาและเปิดรับตัวแทนจำหน่าย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/l7ZrRK



วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559

วัสดุประเภทโลหะ ต้นกำเนิดงานช่างและงานอุตสาหกรรม


วัสดุประเภทโลหะ เป็นวัสดุหลักที่นำมาใช้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมและในครัวเรือน ไม่ว่าจะทั้งทางตรงหรือทางอ้อม โลหะเป็นวัสดุที่ได้จากการถลุงสินแร่ต่าง ๆ เพื่อใช้กันอย่างแพร่หลายในงานอุตสาหกรรม ได้แก่ เหล็ก อลูมิเนียม ( อลูมิเนียมแผ่น , ท่ออลูมิเนียม , อลูมิเนียมฉาก ) ทองแดง( ทองแดงแผ่น , ทองแดงเส้น , ทองแดงม้วน ) ทองเหลือง( ทองเหลืองแผ่น , เส้นทองเหลือง ) ทองคำ เงิน ดีบุก สังกะสี เป็นต้น ซึ่งการงานแฝงอยู่ในการใช้ชีวิตประจำวันของเราในทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ เครื่องใช้ครัวเรือน ยานพาหนะ สิ่งพิมพ์ สิ่งทอ งานอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์บรรจุอาหาร ฯลฯ


วัสดุโลหะประเภทเหล็ก : โลหะพื้นฐานที่มีส่วนประกอบของเหล็ก นิยมใช้กันมากในวงการอุตสาหกรรม ที่พบเห็นกันบ่อยๆ เช่น เหล็กเหนียว เหล็กหล่อ เหล็กกล้า ฯลฯ เพราะเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงสูงมาก สามารถนำไปปรับเปลี่ยนรูปทรงเพื่อการใช้งานที่หลากหลายขึ้น เช่น กรรมวีธีการหล่อ การอัดรีดขึ้นรูป และการกลึง
วัสดุโลหะประเภทไม่ใช่เหล็ก  : โลหะที่เป็นโลหะบริสุทธิ์ มีทั้งโลหะหนักและโลหะเบา ได้แก่ สังกะสี ดีบุก อลูมิเนียม ทองคำ ทองแดง ฯลฯ นิยมนำไปใช้ในงานอุตสาหกรรมที่เหมาะสมเท่านั้น เพราะบางชนิดมีราคาสูงมาก การใช้งานที่เราเห็นปัจจุบัน เช่น การนำทองแดงแผ่นไปประยุกต์ใช้กับงานนำไฟฟ้า , อลูมิเนียมนำไปใช้กับงานที่ต้องการน้ำหนักเบา เป็นต้น


การพิจารณาเลือกวัสดุในที่จะนำมาใช้ในองค์การธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความต้องการจะผลิตสินค้าขึ้นมาใหม่ หรือปรับปรุงสินค้า ผลิตภัณฑ์เดิมให้ดีขึ้น ทั้งนี้เหล็กโลหะ จัดเป็นวัสดุงานช่างพื้นฐานที่สำคัญ หัวใจหลักของงานอุตสาหกรรมมากมาย โดยการใช้งานทั้งทางตรงและทางอ้อม การเลือกนำไปใช้งานจึงต้องใส่ใจในคุณภาพ รายละเอียด สำหรับศูนย์รวมวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์งานช่างโละหะ อุปกรณ์งานอลูมิเนียม ชนิดต่างๆ ที่ใช้ในอาคาร,โรงงานอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ แข็งแรงและได้มาตรฐาน จากบริษัทที่นำเข้าโดยตรง นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายหลัก พร้อมให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ และเปิดรับตัวแทนจำหน่าย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/l7ZrRK

วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บ้านสวยร่วมสมัยสไตล์ทัสคานี

Tuscany เมืองทัสคานี เป็นหนึ่งในแคว้นสาธารณะรัฐอิตาลี มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ แฝงความโดดเด่นด้านศิลปกรรม ด้วยยุคสมัยที่เป็นต้นกำเนิดสถาปัตยกรรม ศาสนา และวัฒนธรรม รายล้อมไปด้วยธรรมชาติทิวทัศน์ป่าเขา  

บ้านสไตล์ทัสคานี แบบบ้านที่มีการผสมผสานระหว่างความดิบและความทันสมัย(ผนึกอดีตและปัจจุบัน) เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ด้วยสถาปัตยกรรมแบบชนบทสไตล์อิตาลี ดีไซน์รูปทรงของตัวบ้านจะเป็นทรงเรียบๆแบบสีเหลี่ยมจัตุรัส สีเหลี่ยมผืนผ้า ภายนอก ภายในบ้าน ผนังห้องนั่งเล่นฉาบสีเทาเข้มตัดสีขาวหรือผนังอิฐ ที่พบเห็นจนคุ้นตากับโทนสีเหลืองอ่อนๆ ดูอบอุ่น ละมุนละไม ส่วนรอบตัวบ้านออกแบบให้มีกระจกเป็นส่วนประกอบเพื่อรับแสงจากธรรมชาติ เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งส่วนใหญ่จะใช้เป็น เฟอร์นิเจอร์ไม้ ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูอบอุ่น ซึ่งสไตล์การตกแต่งในยุคปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเน้นความเรียบง่าย นำเอาของเล่นของสะสมส่วนตัวมาใช้ในการตกแต่งห้องต่างๆ ทำให้บ้านสไตล์นี้มีเสน่ห์และน่าหลงใหล

บ้านที่มีดีไซน์ตกแต่งแบบสไตล์ทัสคานีในประเทศไทย สามารถสัมผัสได้ไม่ใกล้ไม่ไกลกรุงเทพ นั่นคือ ปาลิโอ เขาใหญ่นั่นเอง ในกรุงเทพฯก็สามารถสัมผัสกับบ้านตัวอย่างในโครงการบ้านที่เปิดใหม่ในละแวกทาวน์โฮม รัตนาธิเบศร์ โครงการบ้านเปี่ยมสุข ทัสคานี เอ็มอาร์ที รัตนาธิเบศร์ โครงการบ้านใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง พบกับบรรยากาศบ้านร่วมสมัยทรงแปลกตา อบอุ่น แฝงด้วยความเรียบง่าย น่าค้นหาสำหรับใครที่หลงใหลชื่นชอบกับบ้านสไตล์นี้ สามารถรับชมแบบบ้านสไตล์ทัสคานีสวยๆเพิ่มเติมได้ที่ http://goo.gl/RD0rUH

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ราคาหุ้น ปตท. | การขายหุ้น IPO ปตท. 2544 กับคำถามที่สังคมสงสัย


    ในเดือนพฤศจิกายน 2544 ได้มีการจัดจำหน่ายหุ้น บมจ. ปตท. หลังจากที่แปรสภาพมาจาก การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำนวน 920,000,000 หุ้น ในราคาหุ้น ปตท. หุ้นละ 35 บาท รวมมูลค่า 32,200,000,000 บาท ซึ่งมีประเด็นในกระบวนการจัดจำหน่ายหุ้น ปตท. ที่ถูกโจมตีมากมาตลอด มีอยู่ 3 ประเด็น ดังนี้
1.     ราคาหุ้น ปตท. ที่ขาย หุ้นละ 35 บาทนั้น เป็นราคาที่ถูกเกินไป
2.     ในการจองซื้อ ในส่วนที่ขายให้ประชาชนทั่วไปนั้น ขายหมดใน 1 นาที 17 วินาที มีประชาชนไปเข้าแถวแล้วจองไม่ได้เป็นจำนวนมาก
3.     ในรายชื่อผู้ได้รับการจัดสรร มีรายชื่อของผู้ที่เป็นนักการเมือง และผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นญาติ เป็นพรรคพวกกับผู้มีอำนาจอยู่หลายคน
สาเหตุที่ ปตท. เข้าระดมทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

    ในปี 2544 ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยยังไม่ฟื้นจากวิกฤตดี โดยเฉพาะตลาดทุน ตลาดหุ้น ต้นปี 2544 ดัชนี SET Index ตกต่ำอย่างมาก อยู่ที่ 304 โดยดัชนี SET เคยสูงสุดอยู่ที่ 1,700 ในปี 2536 ต่อมาปี2539 ดัชนีลงมาอยู่ที่ 832 และสิ้นปี2540 หลังวิกฤติเศรษฐกิจ ก็ตกลงมาอยู่ที่ 400 มาตลอด ซึ่งปี 2544 ก่อนการขายหุ้นนั้น ปตท. มีวอลุ่มเฉลี่ยแค่ วันละ 5,000 ล้านบาท ในขณะที่ Market Cap 1.5 ล้านๆบาท ปัจจุบัน SET Index อยู่ที่ 1,365 มีวอลลุ่มซื้อขายวันละ 30,000 ล้านบาท และ Market Cap 12 ล้านๆบาท
    ในปี 2541 KBANK SCB และ BBL ได้มีการเสนอขายหุ้น IPO เพิ่มทุน เพื่อแก้ปัญาวิกฤติในขณะนั้น รวม 110,000 ล้าน หลังจากนั้นหุ้นก็ตกลง ผู้จองซึ่งส่วนใหญ่เป็นต่างประเทศต่างขาดทุนกันถ้วนหน้า ทำให้หุ้นเพิ่มทุนรวมทั้ง IPO ของตัวอื่นๆ แทบจะขายไม่ได้เลย ซึ่งผู้จองซื้อหุ้น ในช่วงเวลานั้นต่างขาดทุนจากการจองซื้อหุ้นกันตลอดมา โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจ
กลต.เคยบังคับให้แบ่งส่วนการจองซื้อหุ้น IPO 30%  แก่บุคคลทั่วไป ปรากฎว่า เคยเปิดการจองหุ้น IPO ที่ศูนย์สิริกิตทั้งวัน มีคนมาจองไม่กี่สิบคน กลต.ต้องยกเลิกกฎดังกล่าวไป

ราคาหุ้น ปตท. กับสาเหตุที่ต้องจำหน่ายหุ้น ปตท.ในช่วงเวลานั้น

·         ปตท. ต้องการเงินทุน เพื่อไปแก้ไขปรับสถานะการเงินบริษัทในเครือทั้งหลาย
·         ปตท. มีโอกาสที่จะได้ลงทุนในอุตสาหกรรมการกลั่น และปิโตรเคมีที่บอบช้ำหนัก หลังวิกฤติ ทำให้ราคาถูก อีกทั้งรัฐบาลไม่สามารถจัดสรรงบประมาณมาให้ได้ กับทั้ง
·         รัฐบาลหวังว่า การจำหน่ายหุ้น IPO ปตท.ที่มีขนาดใหญ่ จะปลุกความสนใจในตลาดหุ้นไทยให้กลับมาได้

ช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2544 เริ่มมีการออกข่าวว่า ปตท.จะเข้าตลาดฯ โดยมีผู้ร่วมจัดการจำหน่ายหุ้น ได้แก่ 3 บริษัทไทย คือ บล.ภัทร บล.ไทยพาณิชย์ และ บล.ทิสโก้ และ อีก 3 Investment Bank ระดับโลก คือ CSFB. Lehman Brothers และ Merrill Lynch เริ่มออก Research จนดัชนี SET Index ปรับตัวกว่า 10% จาก 300 ในช่วงต้นเดือนสิงหา ปี 2544 มาที่ 340 ในช่วงต้นเดือนกันยายน ปี 2544
    แต่วันที่ 11 กันยา (9/11) ก็เกิดเหตุการณ์ตึกเวลเทรดถล่ม ตลาดหุ้นตกต่ำทั่วโลก ดัชนี SET Index ลงไปที่ 280 ในวันที่ 8 ตุลาคม ได้มีการทดสอบตลาด เพื่อประเมินความต้องการเบื้องต้น
วิธีการทดสอบตลาด
·         สถาบันไทย และนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ (เป้าหมายใหญ่สุด) การทดสอบตลาดสำหรับนักลงทุนสถาบันนั้น เรียกว่า Pre-deal marketing ซึ่งก็คือกระบวนการ ที่นักวิเคราะห์ออกไปให้ข้อมูลนักลงทุนสถาบัน ไปเชิญชวนให้สนใจศึกษา สนใจลงทุน พร้อมกับเก็บ feedback เลยว่า ราคาเท่าไหร่ถึงจะยอมลงทุน ดังนั้น Research Analyst ของทั้ง 6 แห่ง (บล.ภัทร บล.ไทยพาณิชย์ บล.ทิสโก้   Lehman Brothers และ Merrill Lynch) จะออกไปพบนักลงทุนสถาบันทั่วโลก เพื่อรวบรวมความสนใจ ตลอดไปจนถึงการหาช่วงราคาที่เหมาะสม
·         ลูกค้าบุคคลที่ซื้อขายหุ้นอยู่แล้ว  จะให้ Underwriter ไทยทั้ง 3 แห่ง (บล.ภัทร บล.ไทยพาณิชย์ บล.ทิสโก้) ทำการสำรวจความเห็น
·         ประชาชนทั่วไปที่มีเงินออมซึ่งปกติไม่ได้เล่นหุ้นจะ ให้ธนาคารสองแห่ง (กรุงไทย กับ ไทยพาณิชย์) ทำการสำรวจความเห็นจากลูกค้าเงินฝากกว่า 5,000 ราย
หลักการ และเป้าประสงค์ในการจัดจำหน่ายหุ้น โดยเฉพาะ IPO
1.     ต้องขายให้หมด
2.     ต้องให้ได้ราคาที่เหมาะสม ราคาไม่ควรจะต่ำไป หรือสูงไป
3.     ต้องให้มีเสถียรภาพของราคาหลังจากเข้าซื้อขาย หลังจากหุ้นเข้าตลาดแล้วจะมีจุดสมดุลราคาประมาณ 5-10% เหนือราคาจอง และมีเสถียรภาพ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยพื้นฐาน หรือ สภาพตลาด
4.     มีการกระจายที่เหมาะสม แก่นักลงทุนทั้ง 4 กลุ่ม

สาเหตุที่ ทางปตท.และรัฐบาล ก็ตัดสินใจจำหน่ายหุ้น IPO ในราคาหุ้นละ 35 บาทในวันที่ 8 ตุลาคม 2544

    เรื่องแรก ช่วงราคาหุ้น ปตท. ที่จะเสนอขาย ซึ่งได้มีการใช้ทุกวิธีที่จะวิเคราะห์เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด ที่ผู้ซื้อจะยอมรับได้ ทั้การใช้ Discounted Cashflow Model และ Capital Asset Pricing Model อื่นๆ รวมทั้ง การเปรียบเทียบ กับราคาหุ้นอื่น ทั้งในตลาดไทย กับ อุตสาหกรรมเดียวกัน ใน ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) อื่นๆ เช่น Sinopec, CNOOC, Petro China, Petronas

    ช่วงราคาหุ้น ปตท. ที่ตกลงกำหนดก็คือ 29-35 บาทต่อหุ้น โดยปี 2543 ปตท.มีกำไร แค่ หมื่นล้านบาทเศษๆ ยังมีปัญหาบริษัทในเครืออีกเยอะ หากพิจารณาเปรียบเทียบข้อมูล SET Index ตอนที่จำหน่ายหุ้น IPO อยู่ที่ 280 แต่ปัจจุบันดัชนี SET index อยู่ที่ 1,365 สูงขึ้นเท่ากับ 14.1% ต่อปี ถ้าหุ้นซื้อปตท. ราคา 35 บาท ปัจจุบันราคาหุ้นละ 300 บาท ได้ผลตอบแทนเท่ากับ 19.1% ต่อปี

วิธีการกำหนดราคาหุ้น IPO ของปตท. ในขณะนั้น เป็นวิธีการที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ตามมาตรฐานตลาดทุนโลก ราคาขายสุดท้ายถูกกำหนดจากกระบวนการ Bookbuilding
เรื่องที่สอง การแบ่งจำนวนตาม Tranches ต่างๆ และการกำหนดวิธีการจองหุ้น IPO ของบุคคลไทย ที่ได้จากการสำรวจความเห็น มีดังนี้
1.      สถาบันไทย…กำหนดว่าจะขาย 10% 92 ล้านหุ้นเนื่องจากขนาดนักลงทุนสถาบันไทย ซึ่งได้แก่ กองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กบข. กองทุนประกันสังคม ประกันชีวิต โดยรวมในเวลานั้นยังมีขนาดเล็ก
2.      นักลงทุนบุคคลแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.     พวกที่เป็นนักลงทุนในตลาดอยู่แล้ว (นักเล่นหุ้น) กำหนดไว้ 170 ล้านหุ้น โดย 50 ล้านหุ้นเป็นส่วนที่ทางปตท. จะเป็นผู้จัดสรรให้กับผู้มีอุปการะคุณ ซึ่งได้แก่ คู่ค้า พวกเอเย่นต์ ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ ซึ่งก็เป็นไปตามกฎที่ กลต.กำหนดไว้ทุกประการ ส่วน 120 ล้านหุ้นเป็นส่วนที่บริษัทหลักทรัพย์กว่าสิบแห่งจะได้รับไปจัดสรรให้ลูกค้าของตนได้ ซึ่งเป็นไปตามวิธีการจัดจำหน่ายทั่วไป
2.     นักลงทุนบุคคลที่ให้จองผ่านสาขาธนาคาร 5 ธนาคาร กำหนดไว้เริ่มต้นที่ 200 ล้านหุ้น โดยใช้วิธี First Come First Serve คือ ใครมาลงชื่อจ่ายเงินก่อนได้รับจัดสรรก่อน พอจองหมดก็จะหยุดรับจอง แต่อาจจัดสรรให้เพิ่มอีก 130ล้านหุ้นได้ ในกรณีที่มีการจำนวนการจองมาก และพิจารณาแล้วว่าการจองมีคุณภาพ จะรับจองไปจนถึง 350 ล้านหุ้น
3.     นักลงทุนสถาบันต่างประเทศ เป็นเป้าหมายใหญ่ที่สุด ส่วนที่จะขายต่างประเทศ จะเป็นส่วนที่ใช้กำหนดราคา ที่เรียกว่าเป็นวิธี Book-building ซึ่งก็คือ การรวบรวมอุปสงค์ในระดับราคาต่างๆกัน เป็น informal auction นั่นเอง (รวบรวมราคาที่นักลงทุนสถาบันอยากซื้อ มาเป็นข้อมูล) ซึ่งการรวบรวมอุปสงค์นี้จะทำควบคู่กันไปกับการ Roadshow และเก็บอุปสงค์ของสถาบันไทย ส่วนลูกค้าบุคคลธรรมดาจะเป็น Price Taker คือ จ่ายเงินมาที่ราคาสูงสุดก่อน (หุ้นละ 35 บาท) ถ้า Final Price ต่ำกว่านั้นจะคืนเงินให้บางส่วนส่วนต่างประเทศนี้ กำหนดไว้ประมาณครึ่งหนึ่ง 450 ล้านหุ้น แต่ถ้าจำเป็น ก็สามารถเพิ่มได้ไปถึง 600 ล้านหุ้น ในกรณีที่อุปสงค์ในประเทศมีไม่พอ โดยเฉพาะจาก Tranche 2.2 ที่กลัวว่าจะไม่มีคนจองซื้อ // แต่ขณะเดียวกัน ก็สามารถลดลงไปได้ ถ้าอุปสงค์ในประเทศแข็งแรง ส่วนที่ย้ายไปมาได้ประมาณ 15% นี้ เรียกว่า Claw-back Portionในวันที่ 29 ตุลา – 16 พย.2544 เป็นช่วงที่ออก Roadshow ทีมในประเทศนำโดยคุณประเสริฐ บุญสัมพันธ์ เสนอการขายต่อลูกค้าเงินฝากธนาคาร ส่วนทีมใหญ่ ที่ประกอบด้วย ผู้ว่าวิเศษ จูภิบาล CFO พิชัย ชุณหวชิร และ ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ เลขาฯกรรมการนโยบายพลังงาน เดินทางทั่วโลก เริ่มที่ Singapore. Hong Kong. London. Edinburgh. Frankfurt. Paris. Boston. San Francisco. LA. แล้วมาจบกำหนดราคาที่ NEW YORK ในวันที่16 พย. 2544
       ในวันที่12 พย. ก่อนถึงกำหนดการจองซื้อของลูกค้ากลุ่ม Tranche 2.2 ที่ผ่านสาขาของธนาคารทั้ง 5 ธนาคาร ได้มีขอลดจำนวนสูงสุดที่แต่ละคนจองได้ลง จากคนละสามแสนหุ้น ลงเหลือแสนเดียว เนื่องจากมีความต้องหุ้นเป็นจำนวนมาก และพอเปิดจอง ก็เป็นดังคาดสาขากว่า 10,000 ของธนาคารทั้ง 5 ส่วนใหญ่ลูกค้าแต่ละคนจองเต็ม 100,000 หุ้น ซึ่งพอเปิดจอง ได้ 1 นาที 17 วินาที ก็ครบ 200,000,000 หุ้น (สองร้อยล้านหุ้น) จึงเปิดการจองหุ้นอีกรอบ พอครบ 350,000,000 หุ้น (สามร้อยห้าสิบล้านหุ้น) จึงหยุดการจอง
การที่มีนักการเมืองจองซื้อได้คนละเป็นจำนวนมากๆ ซึ่งอยู่ในลูกค้ากลุ่ม Tranche 2.1.เนื่องจากในเมืองไทย คนมีเงินมีกระจุกมือเดียว รายชื่อจึงซ้ำไปมาไม่กี่ตระกูล แต่ก็ไม่มีรายใดที่ถูกห้ามซื้อตามกฎหมาย
    จากความสำเร็จในการ Roadshow ทุก Tranche มีคนจองเป็นจำนวนมาก ส่วน ตปท. มีอุปสงค์ถึง 2,000,000,000 หุ้น (สองพันล้านหุ้น) ดังนั้นจึงกำหนดที่ราคาสูงสุดของ Price Range คือ 35 บาทต่อหุ้น ในที่สุดทางกท.อุตสาหกรรม ก็ให้ต่างชาติแค่ 330 ล้านหุ้นคิดเป็น 36% และให้ Tranche ธนาคาร 330 ล้านหุ้นเท่ากัน
บทความดีๆสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : www.รู้จริงพลังงานไทย.com/ราคาหุ้น-ปตท-การขายหุ้น-ipo/
แหล่งที่มาของข้อมูล : http://samtahantoptt.blogspot.com/2016/04/ipo-2544-3.html

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ออกแบบโรงจอดรถสำหรับบ้านโมเดิร์นอย่างไรให้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า


บ้านสวย น่าอยู่ สมบูรณ์แบบ สำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์นแล้ว โรงจอดรถของบ้านก็มีความสำคัญไม่แพ้องค์ประกอบอื่นๆ เช่น สวนสวย ตกแต่งภายใน ห้องครัว ฯลฯ ด้วยคอนเซปส์บ้านที่เป็นโมเดิร์น ทันสมัย เรียบหรู โดดเด่น และมั่นคง ที่จอดรถนับว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญของบ้านเลยก็ว่าได้

            


ออกแบบโรงจอดรถอย่างไรให้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าและเหมาะสมกับการใช้งาน การออกแบบโรงจอดรถโดยใช้หลังคาของบ้านโมเดิร์นยื่นออกมาเป็นส่วนประกอบ สามารถทำได้ในขั้นตอนการสร้างบ้านเลยทีเดียว เพราะตัวบ้านมีฐานโครงสร้างที่เป็นเหล็กอยู่แล้ว การต่อเติมและเชื่อมเหล็กทำเป็นหลังคาจึงทำได้ไม่ยาก ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะประหยัดเวลาแล้ว ยังเป็นโครงสร้างโรงจอดรถที่แข็งแรง ช่วยบังฝน บังลมและบังแดดได้ในตัว

สิ่งที่ควรคำนึงถึงเกี่ยวกับเรื่องการจัดวางพื้นที่การใช้สอย ทิศทาง เพราะที่จอดรถที่ดีต้องอยู่ห่างจากตัวบ้าน ไม่ขวางทางเข้า-ออก ไม่ขวางทางลม ควรเป็นพื้นที่ด้านข้างบริเวณบ้าน บางบ้านอาจใช้ที่จอดรถเป็นสถานที่ปิคนิค ทำกิจกรรมต่างๆ ในวันครอบครัว แต่สำหรับแบบบ้านโมเดิร์นที่มีพื้นที่จำกัด และมีรถยนต์มากกว่า 2 คัน การสร้างโรงจอดรถต้องใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กเข้ามาเป็นแบบ และอาจตกแต่งให้มีความเป็นโมเดิร์นโดยการขัดมัน เมื่อมองภาพรวมของที่จอดรถกับตัวบ้านแล้วมีความสมบูรณ์แบบของบ้านสไตล์นี้อีกด้วย

ข้อควรระวังในการสร้างโรงจอดรถทั้งมลพิษทางเสียง ฝุ่นควัน และความร้อน พื้นที่ในการสร้างจึงไม่ควรอยู่ติดกับห้องนอน ห้องนั่งเล่น ซึ่งเจ้าของบ้านบางท่านอาจประยุกต์พื้นที่ระเบียงด้านบนของตัวบ้านต่อเติมเป็นหลังคาของโรงจอดรถได้ ทั้งนี้การสร้างบ้านและการออกแบบบ้าน ออกแบบสร้างโรงจอดรถ เจ้าของบ้านควรคิดให้รอบคอบถึงเรื่องความปลอดภัยและการใช้งานจริงในอนาคตเป็นหลัก


สำหรับบทความน่ารู้เกี่ยวกับบ้านสไตล์โมเดิร์น , สร้างบ้าน , ออกแบบบ้าน ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://goo.gl/pN0n6J

ทองแดงแผ่น หนึ่งในวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างกับการใช้งานที่หลากหลาย


โลหะทองแดง เป็นโลหะประเภทหนึ่งที่ใช้กันมากที่สุดในรูปของโลหะอิสระ เพราะมีคุณสมบัติหลายประการที่สามารถใช้งานได้ เช่น สมบัติการนำไฟฟ้า , สามารถนำไปดึงเป็นเส้น หรือทำเป็นโลหะแผ่นบางๆได้ ( ทองแดงแผ่น , แท่งทองแดง , ท่อทองแดง )  

ด้วยคุณสมบัติหลักของทองแดง เป็นตัวนำไฟฟ้าได้ดี ราคาถูกกว่าเงิน นิยมนำไปใช้แทนเงิน (ราคาจะถูกกว่า) , นำความร้อนได้ดี , ทนทานต่อการผุกร่อนและ เปลี่ยนรูปง่าย ทองแดงจึงสามารถดัดได้ง่าย จึงใช้ แพร่หลายในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น สายลวดทองแดง, ท่อน้ำทองแดง, ลูกบิด และของอื่น ๆ ที่ติดตั้งในบ้าน, แม่เหล็กไฟฟ้า, เครื่องจักรไฟฟ้า โดยเฉพาะมอเตอร์แม่เหล็กไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า, เครื่องยนต์ไอน้ำและสวิตช์ไฟฟ้า, ความหลากหลายในการใช้งานทองแดงแผ่นเพิ่มขึ้นในวงจรไอซีแทนอลูมิเนียมแผ่นเนื่องจากนำไฟฟ้าได้ดีกว่า ปัจจุบันยังใช้เป็นวัสดุในการผลิตฮีตซิงก์สำหรับคอมพิวเตอร์ เนื่องจากระบายความร้อนได้ดีกว่าอะลูมิเนียม นอกจากนี้ทองแดงยังเป็นวัสดุที่ใช้ในงานโลหะ ในการเลือกใช้งาน ช่างโลหะเองจะต้องรู้ถึงลักษณะ และคุณสมบัติของโลหะ เพื่อการใช้งานและวิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้อง 


สำหรับโลหะต่างๆทุกชนิดที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม คุณภาพดี เกรดพรีเมียม วัสดุก่อสร้างที่ใช้ในอาคารและอสังหาริมทรัพย์ เน้นความแข็งแรงและได้มาตรฐาน จากบริษัทที่นำเข้าโดยตรง เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายหลัก พร้อมให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ และเปิดรับตัวแทนจำหน่าย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/l7ZrRK

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ไทยส่งออกน้ำมันมากกว่าข้าว? แต่ความจริงแล้ว นำเข้า น้ำมัน พลังงานฯ ...

กับคำกล่าวที่ว่า “คนไทยทราบหรือไม่ เราส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปมูลค่ามากกว่าข้าว”
เห็นพาดหัวแล้วน่าจะตกใจ!!ว่า “ เราส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปมากกว่าข้าวอีก
แต่
ในความเป็นจริงแล้ว ประเทศไทย เป็นประเทศที่ต้องนำเข้า น้ำมัน พลังงานสุทธิ…
เราไม่ได้เป็นประเทศที่ร่ำรวยพลังงาน
เราต้องนำเข้าทั้ง น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ไฟฟ้า
เรามีทางเลือกไม่มากนัก
พลังงานสีเขียว อาจเป็นพลังงานทางเลือกที่ต้องส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง
และด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันยังไม่สามารถพัฒนาเป็นพลังงานหลักได้
    ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ดุลการค้า โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ามากกว่ามูลค่าการนำเข้าสินค้า อยู่ประมาณ 3.2 แสนล้านบาท แต่เราขาดดุลพลังงาน ต้องจ่ายเงินออกไปสุทธิกว่า 7.5 แสนล้านบาท ยังดีที่อยู่ในช่วงราคาน้ำมันดิบตกต่ำ (ปีที่ผ่านมาขาดดุล 1.18 ล้านล้านบาท) หมายความว่า เงินทองที่หามาได้ต้องใช้จ่ายไปเพื่อนำพลังงานกลับเข้ามาใช้ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมและภาคการขนส่ง (ใช้พลังงานรวมกันประมาณร้อยละ 70)
ที่มา: รู้ให้จริง..ไม่บิดเบือน
    ประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานปีละกว่า 2 ล้านล้านบาท คิดเป็นประมาณร้อยละ 15 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ แม้พลังงานส่วนหนึ่งที่เราสามารถผลิตได้เอง(ปิโตรเลียม) จะช่วยลดการนำเข้า น้ำมันไปแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท แต่เรายังต้องสูญเสียเงินออกไปเพื่อนำพลังงานกลับเข้ามาขับเคลื่อนประเทศ
ประเทศไทยจึงไม่ได้เป็นประเทศที่ร่ำรวยพลังงาน เราผลิตได้ไม่พอใช้ ต้องนำเข้า และ ต้องนำเข้ามากขึ้นๆ ในอนาคต
    การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมภายในประเทศ และ การส่งเสริม สนับสนุน พลังงานทดแทน พลังงานทางเลือก และ การอนุรักษ์พลังงาน จึงมีความสำคัญมากต่อความอยู่รอดของประเทศในอนาคต
    โดยหากเราพิจารณาจากข้อความที่มีการบอกว่า ส่งออกข้าวมูลค่าน้อยกว่าน้ำมันสำเร็จรูป เราต้องมองไปถึงว่า
·         ข้าวเป็นผลผลิตที่ได้จากการเพาะปลูกภายในประเทศ ซึ่งต่างจากน้ำมันดิบ (เราต้องนำเข้า น้ำมันเพื่อให้ประเทศพอใช้ ถึง 85%)
·         เรานำเข้า น้ำมันดิบเข้ามากลั่นเพื่อให้เพียงพอใช้กับในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดีเซล และน้ำมันดิบไม่ได้กลั่นออกมาได้แต่ดีเซล ยังได้เบนซิน และ อย่างอื่นอีก
·         ดังนั้นเราจึงมีการส่งออกน้ำมันที่เหลือใช้ และนำเข้า น้ำมันมากลั่นเพิ่ม เป็นการสร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจ
·         เหนือสิ่งอื่นใด รายได้รัฐ ก็ได้เพิ่มตามมูลค่าของสินค้า ได้ภาษี และ ผลประโยชน์ต่างๆ จากปิโตรเลียมด้วย
    สุดท้ายทิ้งไว้ให้คิด ถ้าเราส่งออกเยอะและมีการติดอันดับโลกนั่นนี่ตามที่มีการบอกกล่าวกันในโลกโซเชียล ทำไม OPEC (Organization of the Petroleum Exporting Countries) ไม่ชวนเราเข้ากลุ่มเสียหล่ะ

สามารถอ่านสาระน่ารู้และบททความดีๆเพิ่มเติมได้ที่
www.รู้จริงพลังงานไทย.com/ความจริง-นำเข้า-น้ำมัน/



วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงทำเลดี สไตล์อิตาลีทัสคานี

            หลบหนีความวุ่นวาย เอนกายพักผ่อนกับความสงบ รื่นรมย์กับบรรยากาศสุดโรแมนติกกับ โครงการบ้านเปี่ยมสุข ทัศคานี MRT รัตนาธิเบศร์โครงการบ้านใหม่สไตล์ทัสคานี ทาวน์โฮม ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่เพิ่งเปิดตัวมาเมื่อไม่นานมานี้ เป็นการจำลองรูปแบบตกแต่งสถาปัตยกรรมสไตล์อิตาลี ด้วยการนำจุดเด่นของสีเอิร์ธโทนมาใช้เป็นเอกลักษณ์ของทาวน์โฮม ถ้ายังนึกไม่ออกว่าสีเอิร์ธโทนเป็นอย่างไรให้ลองนึกถึงภาพธรรมชาติรอบๆ ตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น พื้นดิน ป่า ต้นไม้ สีเหลืองของทะเลทราย สีเบจ น้ำตาล และเขียว ทั้งนี้เพราะโทนสีเอิร์ธโทนเป็นสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น หนักแน่น คงทน และสบายตา

บ้านเปี่ยมสุข ทัศคานี MRT รัตนาธิเบศร์ พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. พร้อมการเดินทางสะดวกสบายสำหรับรถยนต์ส่วนตัวสามารถเข้าออกได้ทั้งถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีและสนามบินน้ำ ส่วนการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะไปยังโครงการบ้านใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ตัวโครงการบ้านตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีนนทบุรี1 ซึ่งห่างจากโครงการเพียง 800 เมตร ใกล้ห้างสรรพสินค้าเซนทรัลรัตนาธิเบศร์ โรงพยาบาล สถานศึกษา และสถานที่สำคัญอีกมากมาย
โครงการบ้านเดี่ยว ทำเลดีตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ทั้งโครงการบ้านที่อยู่ติดรถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม และรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะช่วยรองรับการเดินทางเข้าออกเมือง ลดระยะเวลาการเดินทาง นับว่าเป็นการตอบโจทย์ความต้องการบ้านเดี่ยวของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี เหมาะมากทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัย และการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาทาวน์โฮม นนทบุรี หรือ โครงการบ้านใหม่ นนทบุรี สามารถรับชมตัวอย่างโครงการ และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :  http://goo.gl/RD0rUH

อิ่มไม่อั้นกับโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ ส่วนลดสุดคุ้มที่ห้องอาหารโกลด์ทีค

Gold Teak International Restaurant (ห้องอาหารโกลด์ทีค) หนึ่งในห้องอาหารโรงแรมชื่อดัง The Twin Towers Hotel Bangkok บริการอาหารนานาชาติแบบบุฟเฟ่ต์ หลากหลายเมนูอาหาร และเครื่องดื่มที่พร้อมให้บริการแบบจัดเต็ม ท่ามกลางบรรยากาศห้องอาหารสุดหรู โปร่ง สบาย บริการที่รวดเร็วทันใจ

สำหรับโปรโมชั่นอาหารประจำเดือนตุลาคม กับโปรโมชั่น Inter Buffet Luch ให้คุณได้กินอิ่มไม่อั้นกับมื้อกลางวันสุดคุ้มกับโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ จากราคาปกติท่านละ 454 บาท ลดเหลือเพียง 379 บาท (ราคานี้รวมเครื่องดื่มชา&กาแฟแล้ว) พิเศษเฉพาะเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น!!
โปรโมชั่นเอาใจคนรักการทานบุฟเฟ่ต์ยังไม่หมดเพียงเท่านี้!! เมื่อมาทานบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ 5 ท่านขึ้นไป รับคูปองส่วนลด 50% เมนู กุ้งอโวกาโด เมนูอาหารเพื่อสุขภาพจากห้องอาหารจีนฟุหมานเหลา และยังสามารถเก็บคูปองไว้ใช้ได้ถึงวันที่ 31 พ.ย.2559  โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ หลากหลายเมนูสุดพิเศษจานอร่อย ง่ายๆเพียงแค่กด Like & Share Facebook Fanpage : https://goo.gl/yEzwST หรือใช้โปรโมชั่นผ่านช่องทาง Line : http://line.me/ti/p/%40twintowers
พร้อมเก็บบันทึกภาพไว้แสดงก่อนใช้บริการที่ห้องอาหารโกลด์ทีค และอย่าลืมสำรองที่นั่งล่วงอย่างน้อย 1 วัน สำหรับโปรโมชั่นนี้ สอบถามข้อมูลโปรโมชั่นอาหารผ่านช่องทางSocial เพิ่มเติม
Web :  goo.gl/UmNRmz

สามารถโทรสอบถามได้ที่ : 02-216-9555 รีบแวะมาอิ่มอร่อยแล้วบอกต่อกันเยอะๆนะคะ